หากคุณกำลังมองหาวิธีปรับปรุงคุณภาพน้ำให้สะอาดขึ้น ลดคราบตะกรัน หรือทำให้น้ำเหมาะสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือการผลิตในโรงงาน คำว่า "สารกรองเรซิน" (Resin) อาจเคยผ่านหูมาบ้าง แต่หลายคนยังไม่รู้ว่าคืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักสารกรองเรซินแบบเข้าใจง่าย ว่ามันทำงานอย่างไร ใช้ในงานแบบไหน และทำไมจึงเป็นหัวใจสำคัญในระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำทั้งในบ้านและอุตสาหกรรม
เรซินกรองน้ำ หรือ Ion Exchange Resin คือเม็ดพลาสติกเล็ก ๆ ที่มีคุณสมบัติพิเศษในการ "แลกเปลี่ยนไอออน" กับสิ่งที่อยู่ในน้ำ ซึ่งหมายความว่าเรซินสามารถดึงเอาไอออนที่ไม่ต้องการออกจากน้ำ และปล่อยไอออนที่เป็นกลางหรือไม่เป็นอันตรายเข้าไปแทนที่
เรซินมีลักษณะเป็นเม็ดกลม ๆ ขนาดประมาณ 0.3–1.2 มิลลิเมตร โดยบรรจุอยู่ในถังกรองน้ำ เมื่อน้ำไหลผ่าน เม็ดเรซินจะทำหน้าที่ดักจับไอออนของสารที่ไม่ต้องการ เช่น แคลเซียม (Ca²⁺) และแมกนีเซียม (Mg²⁺) ซึ่งเป็นต้นเหตุของน้ำกระด้างและคราบตะกรัน
น้ำที่มีแคลเซียมและแมกนีเซียมสูงจะเรียกว่าน้ำกระด้าง เมื่อนำไปต้ม หรือใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า จะเกิดตะกรันสะสม เช่น ในกาต้มน้ำ เครื่องทำน้ำอุ่น หรือระบบไอน้ำในโรงงาน ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายและลดประสิทธิภาพของอุปกรณ์
เรซินสามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้ โดยทำหน้าที่แลกเปลี่ยนแคลเซียม/แมกนีเซียมกับโซเดียม (Na⁺) ซึ่งไม่ก่อให้เกิดตะกรัน จึงช่วยให้คุณได้น้ำที่ "นุ่มขึ้น" (soft water) และยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ต่าง ๆ
เรซินมีหลายประเภท แต่ที่นิยมใช้ในระบบกรองน้ำ ได้แก่:
ใช้กำจัดไอออนบวก เช่น Ca²⁺, Mg²⁺ นิยมใช้ในระบบ Softener หรือระบบน้ำอุตสาหกรรม
ใช้กำจัดไอออนลบ เช่น NO₃⁻, SO₄²⁻ เหมาะกับระบบที่ต้องการน้ำบริสุทธิ์สูง เช่น เครื่องผลิตน้ำบริสุทธิ์ในโรงพยาบาล
เป็นการผสมเรซินชนิด Cation และ Anion ใช้ในระบบผลิตน้ำดีไอ (DI Water) ที่ต้องการความบริสุทธิ์สูงมาก เช่น ห้องแล็บ หรืออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
บ้านพักอาศัยที่มีปัญหาน้ำกระด้าง
โรงแรม โรงพยาบาล โรงงานอาหาร
โรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้ระบบ Boiler, Cooling Tower หรือ RO
ห้องแล็บที่ต้องใช้น้ำบริสุทธิ์
โดยทั่วไปเรซินมีอายุการใช้งานประมาณ 2–5 ปี ขึ้นอยู่กับ:
คุณภาพของน้ำดิบ
ความถี่ในการใช้งาน
ความสม่ำเสมอของการล้างฟื้นฟู (Regeneration)
หากเรซินเสื่อมสภาพ ประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนไอออนจะลดลง และอาจทำให้น้ำกระด้างกลับมาอีก
ทำความเข้าใจ น้ำกระด้าง สาเหตุและวิธีแก้
1. น้ำกระด้าง: สาเหตุและปัญหาที่เกิดขึ้น
2. การแลกเปลี่ยนไอออน: หลักการพื้นฐานและกลไกการทำงาน
1. กลไกการแลกเปลี่ยนไอออนในการทำให้น้ำอ่อนลง: เมื่อน้ำกระด้างไหลผ่านเรซิน "แคลเซียมและแมกนีเซียมในน้ำจะจับกับคาร์บอกซิเลตได้ดีกว่าโซเดียมแคทไอออน"
2. ดังนั้น แคลเซียมและแมกนีเซียมจะ "เข้าไปและยึดติดกับคาร์บอกซิเลต" และ "แทนที่โซเดียมที่เคยอยู่"
3. เมื่อน้ำกระด้างที่มีไอออนแคลเซียมและแมกนีเซียมไหลผ่านเรซินที่เดิมมีโซเดียมเกาะอยู่ แรงดึงดูดที่แข็งแกร่งกว่าของ Ca2+ และ Mg2+ ที่มีต่อคาร์บอกซิเลต จะทำให้ไอออนเหล่านี้ เข้าไปยึดเกาะกับคาร์บอกซิเลต และ "ผลัก" หรือ "เข้าแทนที่" โซเดียมไอออนที่เกาะอยู่ก่อนหน้า ให้หลุดออกไปในน้ำได้
นอกจากการทำให้น้ำอ่อนแล้ว การแลกเปลี่ยนไอออนยังถูกนำมาใช้ในการ ทำให้น้ำบริสุทธิ์ หรือผลิต น้ำปราศจากไอออน (deionized water) ซึ่งเป็นน้ำที่ไม่มีไอออนที่ละลายอยู่ เพื่อให้ได้น้ำปราศจากไอออน สามารถทำได้โดย:
เมื่อ H⁺ และ OH⁻ ถูกปล่อยออกมาจากเรซิน ทั้งสองจะรวมตัวกันเป็นน้ำ (H₂O) ทำให้ได้น้ำที่ไม่มีไอออนอื่นเจือปน
น้ำปราศจากไอออนมีความสำคัญอย่างยิ่งในงานวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมที่ต้องการน้ำที่มีความบริสุทธิ์สูง เนื่องจากไอออนที่ละลายอยู่แม้เพียงเล็กน้อยก็อาจรบกวนปฏิกิริยาเคมีหรือการทดลองต่างๆ ได้ อาคารวิทยาศาสตร์หลายแห่งใช้ระบบแลกเปลี่ยนไอออนขนาดใหญ่เพื่อผลิตน้ำปราศจากไอออนสำหรับใช้งานทั่วทั้งอาคาร
การล้างฟื้นฟู หรือ "Regeneration"
เป็นขั้นตอนสำคัญที่ทำให้เครื่องปรับสภาพน้ำกระด้าง (water softener) กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกครั้ง หลังจากที่มันได้ดูดซับไอออนที่ทำให้เกิดน้ำกระด้างไปจนเต็มแล้ว
ลองนึกภาพเครื่องปรับสภาพน้ำเหมือนฟองน้ำที่ดูดซับสิ่งสกปรก ไอออนแคลเซียม (Ca2+) และแมกนีเซียม (Mg2+) ที่ทำให้น้ำกระด้าง จะไปเกาะอยู่กับเม็ดเรซินแลกเปลี่ยนไอออน (ion exchange resin) ซึ่งเปรียบเสมือนฟองน้ำในเครื่อง เมื่อเวลาผ่านไป ฟองน้ำนี้ก็จะเต็มไปด้วย Ca2+ และ Mg2+ และไม่สามารถดูดซับเพิ่มได้อีก
นี่คือขั้นตอนการล้างฟื้นฟูที่เข้าใจง่ายค่ะ:
ปัญหา: เมื่อใช้ไปเรื่อยๆ เม็ดเรซินในเครื่องปรับสภาพน้ำจะถูกจับจองด้วยไอออนแคลเซียม (Ca2+) และแมกนีเซียม (Mg2+) มากขึ้นเรื่อยๆ แทนที่จะเป็นโซเดียม (Na+) ทำให้ประสิทธิภาพในการทำให้น้ำอ่อนลดลง
การเตรียมสารล้างฟื้นฟู (เกลือ): ผู้ใช้งานจะต้องเติมโซเดียมคลอไรด์ (Sodium Chloride) ซึ่งก็คือ เกลือ นั่นเอง ลงไปในระบบเครื่องปรับสภาพน้ำ เกลือนี้จะละลายกลายเป็นน้ำเกลือ (brine) ซึ่งเป็นน้ำที่มีความเข้มข้นของโซเดียมสูงมาก โดยทั่วไปจะละลายเกลือกับน้ำที่อัตราส่วน 1 ต่อ10
กระบวนการล้างฟื้นฟู:
- การไหลของน้ำเกลือ: น้ำเกลือที่มีความเข้มข้นสูงจะถูกปั๊มให้ไหลผ่านเม็ดเรซินในเครื่องปรับสภาพน้ำ โดยระหว่างนี้ วาล์วจะปิดกั้นไม่ให้น้ำเกลือนี้ไหลออกไปจากเครื่อง
- การแลกเปลี่ยนไอออนกลับด้าน: เนื่องจากน้ำเกลือมีความเข้มข้นของโซเดียมไอออน (Na+) สูงมาก ไอออนโซเดียมเหล่านี้จึงมีโอกาสทางสถิติสูงมากที่จะเข้าไปชนและเกาะกลับไปที่กลุ่มคาร์บอกซิเลต (carboxylate groups) บนพื้นผิวของเม็ดเรซิน แทนที่ไอออนแคลเซียมและแมกนีเซียมที่เกาะอยู่ก่อนหน้านี้
- การชะล้างไอออนความกระด้างออกไป: เมื่อไอออนแคลเซียมและแมกนีเซียมถูกโซเดียมผลักออกมาจากเรซินแล้ว มันก็จะถูกชะล้าง (washed out) ออกจากระบบไปพร้อมกับน้ำเกลือส่วนเกินในกระบวนการที่เรียกว่า "backwash"
- ผลลัพธ์: หลังจากกระบวนการนี้ เม็ดเรซินก็จะกลับมามีโซเดียมไอออนเกาะอยู่เต็มเหมือนเดิม พร้อมที่จะดูดซับแคลเซียมและแมกนีเซียมจากน้ำกระด้างอีกครั้ง เพื่อผลิตน้ำอ่อนสำหรับใช้งานได้ตามปกติ
สรุปง่ายๆ คือ เมื่อเรซิน "ดูด" ไอออนแคลเซียมและแมกนีเซียมจนเต็ม เราก็ใช้ "น้ำเกลือเข้มข้น" เข้าไป "ผลัก" ไอออนเหล่านี้ออกจากเรซิน แล้วชะล้างทิ้งไป ทำให้เรซินกลับมา "พร้อมใช้งาน" อีกครั้ง
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเม็ดเรซินดูดซับเต็มที่แล้ว
ง่ายๆเลยคือ ใช้น้ำยาเช็คความกระด้างหยดลงในน้ำที่ผ่านถังกรองเรซิน แล้วดูสีที่เปลี่ยนไปของน้ำยา ซึ่งทางคนขายจะแนะนำถึงวิธีการใช้และการดูสีที่เปลี่ยนไป
หากต้องการปรึกษาด้านการวิเคราะห์คุณภาพน้ำในโรงงาน สามารถติดต่อได้ที่
โทร 087 910 7399
Add Line : thaipeeken